วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ยาสีฟัน

ยาสีฟัน
คลอรีน และฟลูออไรด์ มีโครงสร้างทางเคมีคล้ายสารประกอบไอโอไดท์  ถ้ากินเข้าไปจะไปรบกวนระบบภูมิต้านทานในร่างกายให้เข้าใจว่ามี
ภูมิต้านทานเยอะและหยุดสร้างภูมิต้านทานได้
นอกจากนี้คลอรีนยังระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจได้
ถ้าใช้น้ำประปาแปรงฟันแนะนำให้หาโอ่งมารองน้ำทิ้งไว้ค้างคืนก่อนใช้ ถ้าจะให้ดีควรผ่านเครื่องกรองก่อน  หรือหาน้ำดื่มมาใช้แปรงฟัน
น้ำในภาคอีสานจะมีระดับฟลูออไรด์สูงอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์  แต่ปรกติยาสีฟันทั่วไปจะมีการใช้ สารให้ความหวาน  
เซลลูโลส ที่มีสูตรเคมีที่น่าจะย่อยยาก (Cellulose เป็น molecarใหญ่ หนึ่งของGlucose    ซึ่งข้อเสียของGlucose คือ มันจะferment  ทำให้Bacteria 
Growth  ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด ฟันผุ ได้)  และฟลูออไรด์ คนที่เป็นเบาหวาน หรือกลัวจะเป็น ไม่ควรใช้ แต่ยาสีฟันเกือบทุกยี่ห้อมีการใช้
สารให้ความหวานเช่นSorbitol กันทั้งนั้น แต่บางยี่ห้อที่ราคาระดับเกือบร้อยขึ้นไปจะใช้  Xylitol เป็นสารให้ความหวานหลักที่จะลดการเกิด
แบดทีเรียไปได้มาก แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเติม Sorbitol อยู่เพื่อใช้เป็นสารรักษาสภาพความเปียกชื้นรอง(ลดต้นทุน) แต่เขาว่ากันว่ายาสีฟันราคาถูก
ส่วนใหญ่จะใส่แป้งเพื่อลดต้นทุนด้วย ซึ่งจะทำให้เข้าไปจับกับไอโอดีนด้วย  อย่างไรก็ตาม อาจมีความเป็นไปได้ ที่ เซลลูโลส (ก็เป็นกลูโคส
สายยาวอีกแบบหนึ่ง)  ก็ทำตัวเหมือนน้ำแป้งได้  
 ถ้ากลัวของหวานเข้าปาก ทางที่ดีที่สุด คือ กิ่งข่อยกับเกลือ ที่เคยมีการใช้มาตั้งแต่โบราณกาล
ต้นข่อย ที่เป็นส่วนผสมในยาสีฟันสมุนไพร ดอกบัวคู่ (แต่ก็ยังมีการเติมสาร Sorbitol อยู่) ปรกติมีขึ้นมากในธรรมชาติของ ภาคอีสาน ที่มี
ฟลูออไรด์ในธรรมชาติอยู่เยอะ ถ้าเหยาะเกลือจากภาคอีสานสักหน่อยก็ไม่ต้องกลัวการขาดฟลูออไรด์  แต่เกลือในภาคอีสานที่น่าจะปลอดภัยที่
สุดคือเกลือแถบมหาสารคาม ที่ไม่มีหินภูเขาไฟ หรือการตั้งฐานทัพของสหรัฐที่เสี่ยงต่อ สปอร์ของแอนแทรกซ์ ที่คาดว่ากระจายไปทั่วประเทศ
แล้วจากระบบการค้าและปนเปื้อนไปกับ เกลือ หนังวัว และข้าว
ด้วยระบบส่งบำรุงกำลังของสหรัฐ คาดว่าจะมีการนำเข้าเนื้อวัวเข้ามาด้วย ฐานทัพของทหารสหรัฐอเมริกาในประเทศไทย 8 แห่ง คือ สนามบิน
ดอนเมือง (กรุงเทพฯ)  อู่ตะเภา (ชลบุรี)  ตาคลี (นครสวรรค์) นครราชสีมา, อุบลราชธานี, โนนสูง (อุดรธานี) น้ำพอง (ขอนแก่น)  และ
นครพนม     .ถึง พ . ศ . 2516จึงมีฐานทัพอเมริกาในไทยถึง 12 แห่ง คือ ที่อู่ตะเภา ตาคลี อุบลราชธานี อุดรธานี นครพนม น้ำพอง สัตหีบ ลพบุรี
เขื่อนน้ำพุง โคราช และ กาญจนบุรี โดยมีศูนย์บัญชาการใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ มีเครื่องบินสหรัฐประจำในไทยถึง 550 ลำ เพื่อใช้ในการทิ้ง
ระเบิดในลาว เขมร และเวียดนาม 
 ดังนั้นพื้นที่ที่เหมาะแก่การเลี้ยงวัว และปลูกข้าว กล้อง อินทรีย์ชีวภาพ น่าจะเป็น ลุ่มน้ำเสียว  ที่น่าจะยังเป็นแหล่งที่ระบบการค้า
ของทั้งสามสิ่งยังไปไม่ถึง เคยมีข่าวเรื่องเชื้อแอนแทร็กซ์อยู่ครั้งสองครั้ง แล้วก็เงียบไป  ในบางประเทศถึงกับมีการเดินขบวนต่อต้านการ
อนุญาตให้นำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐเลยทีเดียว คนในสหรัฐส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ตระหนักถึงภัยจากโรคนี้ ถูกเบี่ยงเบนปิดหูปิดตา เนื่องจากเป็นเชื้อ
โรคฝังตัวเป็นเวลานับสิบปีที่จะไม่มีอาการ ฆ่าเชื้อด้วยความร้อนก็ไม่ได้  อาการเป็นโรคก็ไม่ชัดเจนในการตรวจหาก็ยาก
เวลารับประทานยาสมุนไพร ควรเลือกสมุนไพรที่ผ่านรังสีแกมม่าแล้ว  (แหลมทองการแพทย์)
น้ำยาบ้วนปากส่วนใหญ่จะทำปฏิกิริยากับคลอรีน เกิดก๊าซที่ระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ  ควรนำน้ำที่ปลอดคลอรีนมาเจือจางก่อนใช้
น้ำดื่ม RO ควรรับประทานหลังอาหารทันที แต่ถ้าท่านกลัวภาวะการดูดซึมแร่ธาตุออกจากร่างกายให้ใส่เกลือสักห้าหกเกล็ด หรือหนึ่งหยิบมือ
ต่อถัง
น้ำดื่ม  ในขวดแก้วมียี่ห้อ ช้าง   กับ  คริสตัล (  RO   NSF )            และ สิงห์ ที่หลังต้มให้แห้งจะมีคราบเหนียวเล็กน้อย        ต้องสั่งจากรถส่ง
แบบยกลัง จึงจะมีการส่งให้

ยาสีฟันกับทิงเจอไอโอดีน  http://www.chemtrack.org/Board-Detail.asp?TID=0&ID=3432
ผมได้ชมการสาธิตสินค้าของบริษัทขายตรงยี่ห้อ Amway โดยการแสดงคุณสมบัติเชิงเปรียบเทียบกับยาสีฟันยี่ห้ออื่น
พนักงานขาย ได้นำเอา ยาสีฟัน Colgate มาใส่แก้วแล้วผสมน้ำ หลังจากนั้น ก็อธิบายคุณสมบัติของทิงเจอไอโอดีน ในสมัยที่คุณครูเคยสอน
สมัยมัธยม ว่ามันมีไว้ทดสอบแป้ง ถ้าเจอกับแป้งจะเปลี่ยนสี หลังจากนั้น พนักงานขายก็หยดทิงเจอไอโอดีนลงไปในยาสีฟัน colgate ที่ผสมเจือ
จางกับน้ำ  และแล้วมันก็เปลี่ยนสี
พนักงานอ้างว่า ยาสีฟัน Colgate ที่เราใช้กันทุกวันนั้น มีส่วนผสมของแป้ง ในการลดต้นทุนของผู้ผลิต
ผมไม่คิดว่าทางบริษัท Colgate จะนำแป้งมาผสม และถ้าทำแบบนั้น คงจะไม่ผ่าน อย. เป็นอย่างแน่นอน ขอเชิญผู้ที่มีความรุ้ทางเคมี มาช่วย
อธิบายการเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีตามที่ผมเล่าให้ฟังหน่อยครับ  เพราะยังมีอีกหลายคนนัก ที่ถูกพนักงาน Amway หลอกโดยการสาธิต
สินค้าแบบโกหก
และยังมีการสาธิตสินค้าอีกมากมายหลายตัว ที่ผมต้องการคำอธิบาย ท่านผู้มีความรู้ ที่พร้อมจะช่วยเหลือสังคมจากการเอาเปรียบจากผู้ขายสินค้า
ช่วยทิ้งเมลไว้ให้ผมหน่อยครับ ผมจะถามเรื่องการสาธิตสินค้าตัวอื่นๆ
โดย:  กัน   [5 ต.ค. 2553 20:42] 
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก:  เมนูนานาสาระ และหมวด การวิเคราะห์ ทดสอบ  /  อื่น ๆ 


 
ข้อคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิจะแสดงในกรอบสีเขียว ส่วนข้อคิดเห็นหรือความเห็นจากผู้อื่นจะแสดงในกรอบปกติ



 
ข้อคิดเห็นที่ 1 ของผู้ทรงคุณวุฒิ :
เป็นการตั้งข้อสงสัยที่ดีค่ะ เรามักจะพบเทคนิคการโฆษณาแปลกๆที่ดูน่าเชื่อถือ ส่วนผสมของยาสีฟันพื้นๆไม่น่าจะต่างกันมาก ไม่ว่ายี่ห้อไหน
ประสิทธิภาพก็คงไม่ต่างกันสักเท่าใดนัก กรณีนี้เอาทิงเจอไอโอดีนมาทดสอบให้ดู เราเคยเรียนว่าใช้สารละลายไอโอดีนทดสอบแป้ง ไม่ทราบ
ว่าแล้วมันไปลดประสิทธิภาพการแปรงฟันหรืออย่างไร มีคนถามเข้ามาเรื่องน้ำยาซักล้างเหมือนกัน ว่าเขามีเทคนิคการสาธิตให้ดู แต่พอเอาไป
ทดลองเทียบเอง ก็ดูไม่แตกต่าง ถ้าคุณมีประสบการณ์อื่น ช่วยเล่ามาด้วยค่ะ
โดย:  สุชาตา ชินะจิตร  [6 ต.ค. 2553 11:53] 

 
ข้อคิดเห็นที่ 1:
ยาสีฟัน  ( Toothpaste )       
ยาสีฟัน  คือ  ผลิตภัณฑ์ สำหรับ ทำความสะอาดฟัน โดยใช้ร่วมกับแปรงสีฟัน  ส่วนใหญ่เป็นครีมเหลวหรือเจลที่บรรจุในหลอด และใช้วิธีการ
บีบออกมาจากหลอดใส่แปรงสีฟัน เพื่อนำไปแปรงฟัน 
ส่วนประกอบของยาสีฟัน 
ผงขัด  ( Abrasive )  [ เช่น  Calcium carbonate ,  Calcium monohydrogenphosphate ,  Calcium monohydrogenphosphate dihydrate , 
Tetrasodium pyrophosphate ,  Hydrated Silica  ,  Mica ] 
สารประกอบที่ให้ฟลูออไรด์ เพื่อช่วยป้องกันฟันผุ  [ เช่น  Sodium monofluorophosphate ,  Sodium fluoride ,  Stannous fluoride ]
สารรักษาสภาพความเปียกชื้น  ( Humectants )    [ เช่น  Glycerol ,  Propylene glycol ,  Polyethylene glycol ,  Sorbitol ] 
สารลดแรงตึงผิว ที่มีประจุลบ ( Anionic Surfactant )   [ เช่น  Sodium Lauryl Sulfate  ( SLS ) ]  หรือ  สารลดแรงตึงผิว ที่ไม่มีประจุ ( Nonionic
Surfactant )  
สารแต่งกลิ่นรส  ( Flavors )  [ เช่น  กลิ่นรส  Mint ,  Peppermint ,  Spearmint ,  Anise ,  Apricot ,  Banana ,  Bubblegum ,  Cherry ,  Cinnamon , 
Fennel ,  Ginger ,  Lavender ,  Lemon ,  Orange ,  Pine ,  Pineapple ,  Strawberry ,  Raspberry ,  Vanilla ] 
ส่วนประกอบ / สารปรับปรุงคุณสมบัติ อื่นๆ  ( Other Ingredients / Additives )   
สารให้รสหวาน  ( Sweeteners )  [ เช่น  Sorbitol ,  Xylitol ,  Sodium Saccharin ] 
สารช่วยเพิ่มความหนืดและสภาพครีม-เจล   [ เช่น  Sodium Carboxymethylcellulose ,  Gum ] 
สารลดการเสียวฟัน  [ เช่น  Potassium nitrate ,  Strontium chloride ]
สารช่วยซ่อมแซมเคลือบฟันและเนื้อฟัน  [ เช่น  Synthetic Hydroxyapatite Nanocrystal ,  Calcium diphosphate ] 
สารต่อต้านแบคทีเรีย  ( Antibacterial )  [ เช่น  Triclosan ,  Zinc chloride ] 

ยาสีฟันสูตรสมุนไพร  ใช้สารสกัดจากพืชกลุ่มสมุนไพร  ( Herbal Extract )  [ เช่น  สารสกัด จาก Myrrh , Chamomile ,  Clove ,  Echinasea , 
Ginger ,  Sage ,  Rhatany ,  Thyme  และ  Peppermint  Oil ,  Tea Tree Oil ,  Eucalyptus Oil ,  Coriander Oil ]  แทนการใช้สารแต่งกลิ่นรส
สังเคราะห์  และมักจะไม่มีการใช้ Sodium Lauryl Sulfate  และ สารประกอบฟลูออไรด์ หรือ สารเคมีอื่นๆที่ไม่ใช่สารจากธรรมชาติ 
  
ยาสีฟันสูตรสำหรับเด็ก ( ซึ่งอาจจะกลืนกินยาสีฟันเข้าไป ) มักจะหลีกเลี่ยงการใช้ Sodium Lauryl Sulfate  และ สารเคมีอื่นๆที่เป็นอันตรายต่อ
เด็กเมื่อกลืนกิน  ( โดยหาสารอื่นมาทดแทน )  รวมทั้งจะปรับลดปริมาณสารประกอบฟลูออไรด์ในสูตร ให้เหมาะสมกับเด็กเล็ก ( หรือไม่ใช้เลย )
ยาสีฟันสูตรที่เลือกใช้ สาร Abrasive และ Humectants บางสูตร จะมีลักษณะพิเศษ    เช่น  ยาสีฟัน ที่ใช้ Hydrated Silica ร่วมกับ Sorbitol   จะมี
ลักษณะเป็นเจลโปร่งแสง   ;   ยาสีฟัน ที่ใช้ Mica  ( เป็น Abrasive )  ร่วมกับ Sorbitol   จะมีลักษณะเป็นเจลที่มีมุกสะท้อนแสง       
ยาสีฟัน ที่บีบออกจากหลอดมาเป็น ครีม-เจลที่มีริ้วสองสี  เป็นยาสีฟันที่มีเนื้อยาสีฟันสองส่วน ซึ่งมีสีต่างกัน และบรรจุในหลอดยาสีฟันเดียว
กันโดยไม่ผสมกัน ( เนื่องจากมีความหนืดสูง )  ที่ปากหลอดยาสีฟันจะมีรูปแบบเฉพาะ ซึ่งทำให้เนื้อยาสีฟันทั้งสองสีถูกบีบออกมาพร้อมกันได้
และเกิดลักษณะริ้วสองสี         

http://www.chemtrack.org/EnvForKids/content.asp?ID=74        ยาสีฟัน    ( Toothpaste )       
http://www.chemtrack.org/EnvForKids/column.asp?ColumnID=3        ขบวนการโลกแสนสวย    -    ฉลาดใช้ผลิตภัณฑ์       
http://www.chemtrack.org/EnvForKids/home.asp        ขบวนการโลกแสนสวย       

สารที่เป็นส่วนประกอบ หรือ สารเพิ่มคุณสมบัติ   ที่แสดงไว้ข้างต้น  ไม่มีสารใดที่เป็น  แป้ง  ตามนิยามทางวิทยาศาสตร์    แต่  มีสารหลายชนิด
ในกลุ่มนี้ ที่สามารถ เปลี่ยนสีสารละลายไอโอดีน       
สำหรับ ยาสีฟันคอลเกต  ส่วนประกอบที่น่าจะเปลี่ยนสีสารละลายไอโอดีนได้  คือ  Cellulose Gum  ซึ่ง ไม่ใช่แป้ง  และ ไม่ได้เติมหรือผสมลง
ไปเพื่อลดต้นทุน    นอกจากนี้ ยังมีส่วนประกอบอื่น ที่สามารถเปลี่ยนสีหรือฟอกสีสารละลายไอโอดีนได้    ดังนั้น  การ สาธิต-ทดสอบ ด้วยสาร
ละลายไอโอดีน ไม่ใช่ วิธีการที่บ่งบอกถึงคุณภาพของยาสีฟัน    ( หรือ ผลิตภัณฑ์อื่นๆ )
โดย:  นักเคมี  [7 ต.ค. 2553 16:37] 

 
ข้อคิดเห็นที่ 2:
อยากให้คุณนักเคมี ช่วยวิเคราห์ ยาสีฟันสไมล์ออนของซูเลียนให้หน่อยค่ะ                เพราะวิธีสาธิตก็เหมือนกับแอมเวย์เลย
โดย:  อยากรู้  [11 ต.ค. 2553 17:10] 

 
ข้อคิดเห็นที่ 3:
ยาสีฟัน Colgate ไม่ได้มีต้นกำเนิดจากประเทศไทย และไม่ใช่สินค้าระดับ world class ดังนั้นเมื่อไม่ใช่สินค้าระดับ world class คุณภาพสินค้า
ในแต่ละประเทศจึงแตกต่างกัน ดังนั้น Colgate ในไทยจึงใส่แป้งเพื่อลดต้นทุนจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
โดย:  ohmmy  [12 ธ.ค. 2553 22:11] 

 
ข้อคิดเห็นที่ 4:
ตลกค่า... ใส่แป้ง... แล้วไม่คิดบ้างหรือค๊ะว่า  ก่วยเตี๋ยวราดหน้าใส่แป้ง  หรือ หอยทอดใส่แป้ง   เมื่อแป้งเจอกันน้ำ จะเป็นอย่างไร ?... ผลิตภัณฑ์
พวกนี้ คงตัวไหมค๊ะ เมื่อตั้งทิ้งไว้ จะไม่เหลว หรือเน่าค๊ะ ?  (ประชดค่า)          
หากแม้จะใส่ แป้ง ก็ไม่ได้ช่วยทำหน้าที่อะไร ในส่วนผสมนะค๊ะ        แถม จะถ้าจะใส่ ก็คงใส่ได้น้อยนิดค่า  เพราะว่าส่วนผสมอื่นๆ ก็เยอะแยะ
จนหนืดไปหมด แล้วค่า        
พวกขายตรงบางราย ชอบหลอกลวง ^^
ลองดูสูตรลิขสิทธิ์ ของบริษัทฯ ชั้นนำบางราย สิค๊ะ 
Water  30  
Sorbitol  6  
Saccharin  0.1   
Calcium pyrophosphate  40  
Glycerine  20  
Sodium alkyl (coconut) sulfate  0.5  
Sodium coconut monoglyceride sulfonate 0.8  
Sodium carboxymethyl cellulose  1.2  
Magnesium aluminum silicates  0.5  
Flavoring  0.9  
Ethylene diamine tetra(methylene phosphonic acid)  1.50  
แค่นี้ ก็ ของผสม หนืด ไปหมดแล้วค่า...  ^^
โดย:  น้ำใจ  [13 ธ.ค. 2553 13:44] 

 
ข้อคิดเห็นที่ 5:
โทดนะครับ  cellulose เป็น molecarใหญ่ หนึ่งของglucose ครับ   ซึ่งข้อเสียของglucose คือ มันจะferment  ทำให้bacteria  growth  ซึ่งเป็น
สาเหตุที่ทำให้เกิด ฟันผุ   ได้ 
โดย:  นายเเพทย์  [14 ธ.ค. 2553 23:28] 

 
ข้อคิดเห็นที่ 6:
จัดให้  ตาม  คำขอ  ของ  " กัน "  และ  " อยากรู้ "       
ส่วนผสม  ( Ingredients )  ของ    ยาสีฟัน  คอลเกต  ( รสยอดนิยม  -  ลิควิดแคลเซียม )  ของ  คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ        ( ตามที่แสดงไว้ที่กล่องยา
สีฟัน )       
Dicalcium Phosphate Dihydrate  ,    Water  ,    Sorbitol  ,    Sodium Lauryl Sulfate  ,    Flavor  ,    Sodium monofluorophosphate  ,    Cellulose
Gum  ,    Tetrasodium pyrophosphate  ,    Sodium Saccharin  
ส่วนผสม  ( Ingredients )  ของ    ยาสีฟัน  สไมล์ออน  ของ  ซูเลียน        ( ตามที่แสดงไว้ที่กล่องยาสีฟัน )       
Dicalcium Phosphate Dihydrate  ,    Sorbitol  ,    Purified Water  ,    Glycerine  ,    Sodium Lauryl Sulfate  ,    Xanthan Gum  ,    Flavour  ,   
Sodium Monofluorophosphate  ,    Sodium Benzoate  ,    Sodium Saccharin  ,    Tetrasodium pyrophosphate  ,    Aloe Vera Gel      

ความแตกต่าง  ( เพียง เล็กๆ น้อยๆ )    ระหว่าง    ยาสีฟัน  คอลเกต  ( รสยอดนิยม )    และ    ยาสีฟัน  สไมล์ออน  ของ  ซูเลียน       
ยาสีฟัน  คอลเกต  ใช้  Sorbitol  เป็น สารช่วยรักษาสภาพความเปียกชื้น                ยาสีฟัน  สไมล์ออน  ใช้ ทั้ง  Sorbitol  และ  Glycerine 
ยาสีฟัน  คอลเกต  ใช้  Water                ยาสีฟัน  สไมล์ออน  ใช้ Putified Water       
ยาสีฟัน  คอลเกต  ใช้  Cellulose Gum        ยาสีฟัน  สไมล์ออน  ใช้  Xanthan Gum       
Ingredient  อื่นๆ  ที่  ไม่มี ใน  ยาสีฟัน  คอลเกต    แต่  มี  ใน  ยาสีฟัน  สไมล์ออน     คือ    Sodium Benzoate  และ  Aloe Vera Gel       

ลอง เปรียบเทียบ  ราคา และ ปริมาณ  ของ    ยาสีฟัน  ทั้ง สอง  ดูกันเอง        และ        ควร    ลอง  ไปหา  ยาสีฟัน แอมเวย์  มา ลอง เปรียบเทียบ 
Ingredients , ราคา และ ปริมาณ  กับ  ยาสีฟัน  ทั้งสอง ด้วย       
ผม  จะ  ไม่ชี้นำ  ว่า  เป็นอย่างไร    ขอให้ คิด และ สรุป  ด้วยตนเอง        ( การที่ใครจะเลือกใช้ ยาสีฟัน หรือ ผลิตภัณฑ์อื่นใด  ด้วย  เหตุผล /
ความพึงพอใจ / ความเชื่อ / ความศรัทธา / ความเข้าใจถูก - ความเข้าใจผิด        เป็น สิทธิส่วนบุคคล   ตราบใดที่ไม่ ละเมิดสิทธิผู้อื่น ไม่ขัดต่อ
กฎหมาย-ศีลธรรม ฯลฯ    สิทธินั้นก็จะคงอยู่ต่อไป )
โดย:  นักเคมี  [30 ธ.ค. 2553 01:37] 

 
ข้อคิดเห็นที่ 7:
Amway  Toothpaste   
" Glister "  Multi - Action  Fluoride  Toothpaste   
http://www.goodguide.com/products/283075-glister-multi-action-fluoride-toothpaste       
Ingredients 
Sodium Fluoride                [ Active Ingredient    -    Source of Fluoride ]       
Sorbitol                [ Humectant    &    Sweetener ]       
Water       
Silica ,  Hydrate                [ ( Hydrated Silica )    -    Abrasive ]
Glycerin                [ ( Glycerol )    -    Humectant ]       
Propylene Glycol                [ Humectant ]       
Sodium Lauryl Sulfate                [ Anionic Surfactant ]       
Xylitol                [ Sweetener ]       
Carboxymethyl Cellulose                [ Gel Former  /  Viscosity Modifier ]       
PEG 8                [ ( Polyethyleneglycol )    -    Humectant ]       
Flavor               
Titanium Dioxide                [  ? ?  ]   
Xanthan Gum                [ Gel Former  /  Viscosity Modifer ]       
Saccharin Sodium        [ ( Sodium Saccharin )    -        Sweetener ]         
Methyl Paraben                [ Preservative ]       
Propyl Paraben                [ Preservative ]       
FD&C Blue 1                [ Colorant ]       

โดย:  นักเคมี  [30 ธ.ค. 2553 09:25] 

 
ข้อคิดเห็นที่ 8:
เป็นกระทู้ที่ดีนะครับแต่สว่นใหญ่คุณภาพแต่ละยี่ห้อเงื่อนไขราคาสินค้าผมว่าอยู่ที่ความพึงพอใจของผู้ใช้มากกว่าครับ
โดย:  สุพจน์  [4 ก.พ. 2554 16:45] 

 
ข้อคิดเห็นที่ 9:
แป้ง ทำให้ฟันผุ แล้วก็มีกลิ่นปากด้วยค่ะ
คต. 4  "คะ"  ไม่ใช่  "ค๊ะ"  นะคะ ^ ^
โดย:  ME  [11 ก.พ. 2554 22:42] 

 
ข้อคิดเห็นที่ 10:
คุณนักเคมี ช่วยอธิบายโดยละเอียดและชัดเจนด้วยว่า จริงหรือไม่กับการเปลี่ยนสีของเซลล์ลูโลส เอาชัดๆ  และช่วยกรุณาตรวจสอบหาแป้งใน
ยาสีฟัน  เพราะมันมีโครงสร้างทางเคมีอยู่แล้วในสารประกอบแต่ละตัว  จะได้กระจ่างกันถ้าจะยืนยันในความเป็นจริง   ถ้าใครมีข้อสงสัยให้นำ
ไปถามผู้จริงๆ ระดับ ดร.  หรือนำไปตวรจสอบทางเคมีด้วยตนเองนะ  อย่าพูดลอยๆ  ทุกสิ่งที่ทำการสาธิตต้องพิสูจน์เองว่าจริงหรือไม่
โดย:  คนเคยใช้  [21 ก.พ. 2554 14:26] 

 
ข้อคิดเห็นที่ 11:
ข้าพเจ้า  ( ซึ่งใช้ ชื่อ  " นักเคมี " ในการตอบคำถาม และ แสดง ความคิดเห็น ใน เว็บไซต์นี้ )  ขอชี้แจง เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด ดังนี้         
ข้าพเจ้า  ไม่เคยนำ  ยาสีฟัน  คอลเกต  /  ยาสีฟัน สไมล์ออน  /  ยาสีฟัน Glister    มา วิเคราะห์ เพื่อหา องค์ประกอบ - ส่วนผสม - สูตรการผลิต    (
และ ไม่เคยนำ ยาสีฟัน อื่นๆ มาวิเคราะห์ ด้วย )    ข้อมูล เรื่อง Ingredients ของ  ยาสีฟัน ทั้งสาม  ที่นำมาตอบนั้น  เป็นการนำมาจาก ฉลาก -
เอกสารกำกับ  ของ  ยาสีฟัน ทั้งสาม นั้นเอง  ( หมายความว่า  เป็น ข้อมูล ที่ ผู้ผลิต เผยแพร่ ต่อ ผู้บริโภค )       
ข้าพเจ้า  เคยใช้   ยาสีฟัน  คอลเกต  /  ยาสีฟัน สไมล์ออน  /  ยาสีฟัน Glister    แล้ว    และ  ไม่ได้ มี ข้อสงสัย ในด้าน คุณภาพ  ของ ยาสีฟัน เหล่านี้
      
ข้าพเจ้า  ไม่เคยทดสอบ  และ  ไม่เคยสงสัย  ว่า  ยาสีฟันเหล่านี้  มี แป้ง  หรือ  ไม่มี แป้ง    ( ไม่ว่า  แป้ง  จะ หมายถึง อะไร ก็ตาม )       
สิ่งที่ ข้าพเจ้า รังเกียจ  คือ  การกล่าวหา  หรือ  การให้ร้าย  สินค้า ของ คู่แข่ง  ( ทั้ง  ด้วย  วาจา  หรือ  การสาธิต ที่ ผู้ชม ไม่มี ความรู้ พอที่จะ เข้าใจ
ข้อเท็จจริง )       
ข้าพเจ้า  ใช้ ชื่อ  นักเคมี  เพราะ เรียน หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต  ( เคมี )  และ  เคย ทำงาน  ใน ตำแหน่ง  นักเคมี    /    นักวิทยาศาสตร์ - เคมี   
จริงๆ       
ข้าพเจ้า  ไม่ใช่  ระดับ  ดร.    ( ไม่เคยผ่านการศึกษา ถึง ระดับนั้น  และ ไม่เคยมี มหาวิทยาลัย ให้ ปริญญา ระดับนั้น )       
บางครั้ง  ข้าพเจ้า  จะ  โต้ตอบ  -  ตอบโต้    คำพูดปากเปล่า  ด้วย  คำพูดปากเปล่า  ( โดยไม่นำหลักฐานมาพิสูจน์ )       
ข้าพเจ้า  ไม่นิยม  ความคิด ประเภท  ((  ข้าพเจ้า รู้ดี รู้จริง  กว่าใครๆ     ถ้าใครคิดต่างจากข้าพเจ้า - แปลว่า ไม่ถูกต้อง  ))       
ข้าพเจ้า ไม่คิด  ชักจูง  โน้มน้าว  บังคับ  ข่มขู่    ให้  เชื่อ ตาม คำตอบ - ความคิดเห็น  ของ ข้าพเจ้า
โดย:  นักเคมี  [21 ก.พ. 2554 20:09] 

 
ข้อคิดเห็นที่ 12:
ผมว่านะครับ ไม่มีสินค้าตัวไหนจะอยู่ข้างผู้บริโภค 100% หลอกครับ
เพราะ มันอยู่ในเรื่องของผลกำไรทั้งนั้น
แล้วสินค้าไม่ใช่คนผิด คนผิดคือคนที่เสนอโดยทางที่ผิดๆบิดเบือนความจริง
สินค้าบางตัวมันดีจริงๆสมกับราคา
เราพอใจในสินค้าก็พอแล้วครับ
ไม่มีใครรู้ดีเท่ากับตัวเราว่าอะไรดีกว่ากัน ถามคนอื่นก็คงตอบกันต่างๆนาๆ
เพราะแต่ละคนก็อาจจะยังไม่เคยลองใช้ยาสีฟันครบทุกยี่ห้อ
ถูกไหมครับที่ผม บ่นไป
ดังนั้นถ้าเราอยากรู้ว่าอันไหนดักว่ากันจริงหรือไม่จริงก็ต้องลองด้วยตัวเองครับ
(ขอฝากนิดหนึ่งนะ ไม่มีบริษัทไหนที่เขาผสมแป้งละออกมาเขียนในสูตรยาสีฟันบอกหรอกครับ)
ผมใช้ตัวเองพิสูจน์สินค้า (ด้วยความพอใจ)
ขอให้คิดถึงเรื่อง การค้า เศรษฐศาสตร์ ผลกำไร เอาไว้เลย ไม่มีใครขายของไม่อยากได้กำไรหรอกครับ
โดย:  แวะมาเห็น  [8 มี.ค. 2554 14:23] 

 
ข้อคิดเห็นที่ 13:
แป้งที่ว่า form complex กับสารละลายไอโอดีนได้ต้องเป็น แป้งที่เป็น amylose นะครับเพราะโครงสร้างทางเคมีของ amylose จะเป็นเกลียว
และที่ที่ว่างพอจะให้ไอโอดีนเข้าไปแทรกอยู่และเกิดการดูดกลืนแสงช่วง visible ไม่ใช่ carbohydrate ในรูป cellulose ครับ cellulose ไม่ใช่แป้ง
นะครับอย่าเข้าใจผิด และที่สำคัญ ถ้าผู้ผลิตยาสีฟันใส่แป้งลงไปลดต้นทุนการผลิตแล้วมันผิดตรงไหน ราคายาสีฟัน colgate เท่าไหร่และของ
amway เท่าไหร่ เทียบกันได้หรอครับ
ปล.รบกวนของถามคุณ นายแพทย์ว่า ร่างกายมนุษย์ย่อย cellulose ได้ด้วยกระบวนการ fermentation ของแบคทีเรียที่บริเวณปากหรือลำไส้ใหญ่
ครับ ถ้าคำตอบคือที่ปากรบกวนบอกผมหน่อยว่าแบคทีเรียตัวไหนสายพันธุ์อะไร
โดย:  นักเคมีคนหนึ่ง  [24 มี.ค. 2554 16:00] 

 
ข้อคิดเห็นที่ 14:
โอ้แม่เจ้า จากสกุลพระเจ้าเหาค๊ะ  ^^   (ขออภัยหากภาษาจะเพี๊ยนไปนิดน้าค้า...เพื่อความน่ารักค่า).... กำลังหาข้อมูล สารเคมีในกูเกิ้ล  แต่บังเอิญ
ขึ้นลิงค์นี้ ก็เรยเข้ามาดู... ตกใจมากเจ้าค่า...  ไม่นึกว่า จะมีคนมาอ่านมาตอบ.... กรี๊ดๆๆ ค่า
เค้าจบการศึกษาชีวเคมี... ทำงานบริษัทชีวภัณฑ์   ต่อมาอยากมีธุรกิจของตนเอง... เลยไป หาอ่านหนังสือ คอสเมติกส์ นะเจ้าค้า ... ปัจจุบันนี้ ชอบ
ลองผสมคอสเมติกส์เอง...  และเพิ่งเรียนจบด้านบริหารธุรกิจ  โดยเฉพาะสาขาการตลาด... เคยทำงานติดต่อ งานราชการ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ขาย
ได้ในไทย และทำโฆษณามาด้วยเจ้าค่า ...
เค้ารู้ทันผู้ผลิตค่า... เพราะว่า เค้าเป็นนักการตลาด และแบรนด์เชิงกลยุทธ์ รวมทั้งชอบในงาน R&D  ที่คาดหวังจะผลิตสินค้าที่ดี และปลอดภัย...
เค้า ไม่ชอบ  บริษัทฯ ไม่ว่าจะรายใดก็ตาม ที่รวยแล้ว แต่ยังคงผลิตสินค้าแย่ๆ ออกมา  แล้วยิ่งมาทำภาพลักษณ์ โฆษณาเบี่ยงประเด็น หรือหลอก
ประชาชนเกินไป...(ขึ้นอยู่กับระดับ การยอมรับของส่วนตัว ของใครของมันน้าค้า) 
เค้าถือว่า ดำเนินธุรกิจ ควรมีความสุจริตใจ และมีศีลธรรมที่ดีในการผลิตสินค้า หรือ การพูดโฆษณาในความจริงให้มากพอควร 
เค้าชอบ หา patent มาอ่าน ผลงานการผลิตสินค้าสู่ผู้บริโภค เสมอๆ ... 
etc...
-----------------------------
เท่าที่เค้าจำได้... สูตรที่เค้าเอามาลง ก็เป็นสูตรของ ยาสีฟันของบริษัทรายหนึ่ง... ลองเอาไป copy-paste ในกูเกิ้ลเอาเอานะค้า
เท่าที่จำได้....(ผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว)  แน่นอนว่า Cellulose ย่อยสลายยากมาก....  ยิ่งมีปัจจัยในเรื่องของพันธะของหมู่แคมี ที่ดัดแปลง (เช่น ดีด
แปลงด้วยการเติมหมู่เมธิล หรือ คาร์บ๊อกซิล  ก็ยิ่งอาจทำให้แบคทีเรียย่อยได้ยากยิ่ง... ยังไม่นับปัจจัยว่า สถานที่ที่แบคทีเรียอยู่ในร่างกายมนุษย์
อีกน๊ะ... เค้าคิดว่ายากพอควรเรย..ที่แบคทีเรียย่อย cellulose จะอยู่ในปากหรือลำไส้ของคน ....ตัวอย่าง cellulose คือ ใยผัก หรือ ทิชชู ก็กลายเป็น
กากอุนจิ... (เซลลูโลสในโลกนี้ น่าจะเยอะมาก มีหลายแบบ) ...ส่วนเซลลูโลสดัดแปลงแบบอื่นๆ  ก็ เช่น น่าจะ Cellephane กระดาษแก้ว  ...
CMC หรือ คาร์บอกซีเมธิลเซลลูโลส  มีหลายเบอร์... บางเบอร์ ใส่ในไอศกรีม เพื่อเพิ่มความหนืด และเนื้อของไอศครีม....  บางเบอร์ ใส่ในน้ำ
ดื่มบางชนิด หรือแม้แต่ ใส่ใน สินค้าคอสเมติกส์.... ช่วยหล่อลื่น ได้ด้วยในสินค้าบางตัว เมื่ออดีต....ฮิ  ฮิ 
ใช่...ที่ว่า เซลลูโลส ประกอบขึ้นมาจากหน่วยเล็กๆ ที่เรียกว่า น้ำตาลกลูโคส ..แต่ว่า เซลลูโลส เกิดจาน้ำตาลกลูโคสที่ มาเชื่อมต่อพันธะที่แน่
หนามาก จนเป็น กลูโคสสายยาวๆๆๆ หรืออาจพูดได้ว่า ดัดแปลงไปแล้ว...(แบคทีเรีย จึงย่อยยาก...ถ้าไม่ใช่ แบคทีเรีย ในสัตว์เคี้ยวเอื้อง ก็ไม่มี
ทางเท่าไรนัก).... อย่างไรก็ แล้วไม่มีใครรู้หรอกว่า  น้ำตาลกลูโคสบางหน่วย จะต่อ ออกไปจาก สายยาวของกลูโคสได้. (เหมือนกิ่งไม้  กิ่งก้าน
สาขา) .. เช่น ฝ้าย...มีน้ำตาลกลูโคสหน่วยเล็กๆ ที่ไม่ใช่สายยาว... ผ้าฝ้าย หรือค๊อตตตอน แท้ๆ จึงมักเก็บแล้ว เป็น รูเล็กๆ  เพราะว่า น้ำตาล ถูก
กินไป... (ใครกินไปล่าน้า ? )
จริงที่ว่าปรากฎการณ์ เปลี่ยนสี ของ โมเลกุลไอโอดีน จะทำตัวเหมือนดัมเบล แล้วแทรกเข้าไปใน สายยาวของกลูโคส ที่เป็นพวกแป้ง หรือน้ำ
แป้ง...(เพราะว่า กลูโคสที่ดัดแปลงเป็นสายยาวๆ มีหลายชนิด...หนึง่ในนั้น ก็คือ แป้ง)    โมลเลกุลแป้ง จะใหญ่ ดูด้วยกล้องขยายหลายพันล้าน
เท่า จะคล้าย สายโทรศัพท์....ไอโอดีน จะไปแทรก ในร่องสายโทรศัพท์ นั่น... ทำให้เรา มองเห็น เป็น สีเข้ม ม่วง ...สายยิ่งยาว ยิ่งสีเข้ม.... ส่วน
สายสั้นๆ จะสีจางลงๆๆๆมา เป็น (ถ้าจำไม่ผิด ชมพู) ก็ได้...  แต่สั้นทีสุด คือ น้ำตาลกลูโคส 2-4 โมเลกุล ก็จะไม่มีสีแล้ว...เพราะว่า  สายโทรศัพม์
สั้นมากๆๆ รัด โอบโมเลกุล ไอโอดีนเอาไว้ไม่ได้....  สีไอโอดีน ที่เป็นอิสระ จึงต้องล่องลอยในน้ำแป้ง โดยไม่แทรก....ก็จะเจอน้ำแป้งสีขาว ก็ สี
จางๆ ไป (ลองเอา สีน้ำ สีขาว มาทำเฟด สีเหลืองดูล่ะกันเองน้า) ...   ฉะนั้น โมเลกุลใหญ่ใดๆ ที่โครงสร้าง คล้าย สายโทรศัพท์ ก็จะทดสอบแล้ว
เห็นผลแบบข้างต้น
"อย่างไรก็ตาม" อาจมีความเป็นไปได้ ที่ เซลลูโลส (ก็เป็นกลูโคสสายยาวอีกแบบหนึ่ง)  ก็ทำตัวเหมือนน้ำแป้งได้  แต่ไม่เคยมีใครทดลอง นะค้า ...
 ซึ่งหมายความว่า สีม่วงเข้ม หรือน้ำเงินเข้ม อาจเป็นเพราะ เซลลูโลสก็ได้  ไม่ใช่เพราะว่า แป้ง
ยาสีฟีนผสมแป้ง ก็ไม่แปลกนักหรอกค่า... ก็ลดต้นทุนไงค๊ะ หรืออาจจะเพราะเหตุผลอื่นๆมากมาย .... แต่ผสมในสูตรได้ไม่มากหรอกค่า... (แป้ง
มีหลายแบบ ... เคยลองไหมค้า  แป้งข้าวเจ้า  แป้งข้าวเหนียว  แป้งยายท้าว...แป้งขนมปัง...โอ้ย...มากมาย.... แต่จะมีแป้งชนิดหนึ่ง ที่นิยม ผสมใน
สินค้า คอสเมติกส์มากที่สุด)...
ส่วนยาสีฟัน ต้องผสม คาร์บอกซีเมธิลเซลลูโลสแน่นอนค้า... สูตรไหนส่วนใหญ่ๆ ก็ทำแบบนี้ มาตลอดน๊า .... 
ดังนั้น ส่วนตัวคิดว่า มีแป้งหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฟันนักหรอก... เพราะว่า ใส่น้อยมาก... บ้วนน้ำ ก็หายไปแล้ว... หรือไม่ก็ ตัวสินค้าเอง มีใส่
preservative  สารกันบูดอยู่แล้ว ...สารกันบูด ก็ฆ่าแบคทีเรีย ในสินค้าไปแล้วเจ้าค่า...  แถมสารกันบูดก็มาเข้าปากเราอีก... จางหมดแล้วล่ะค้า... 
น้ำตาล sorbitol  และ glycerine ต่างเป็น Humectant ทั้งคู่... เพราะว่า ช่วยให้ ยาสีฟันไม่เหลว จนเป็นน้ำ ... และยังช่วยเพิ่ม เนื้อยาสีฟันด้วย ... 
sorbitol ราคาแพงกว่า glycerin น๊ะจ๊ะ... sorbitol ยังช่วยบดบังลด รสเปรี้ยวของ Sodium Lauryl Sulfate  (สารลดแรงดึงผิว หรือ อาจเรียกว่า
surfactant เป็นสารชำระล้าง และทำให้เกิดฟอง...ก็ หวังว่า ถูฟันให้สะอาดนิ๊ค้า ) ...และ humectant ยังทำให้ ยาสีฟัน ไม่แห้งแข็งมื่อสัมผัส
อากาศ.....  โอ๊ะ ลืมไป"""" อย่าเอา น้ำตาล Sorbitol ไปพูดน๊ะว่า  แบคทีเรียในปากก็ย่อยได้... และ นอกจากนี้ บางสูตรก็ ใช้ Xylitol ซึ่งแพงมากๆ
แทน sorbitol และ glycerin  ... แบคทีเรีย ในปาก และในโลกนี้ มีมากมายหลายชนิด... รวมทั้ง เชื้อรา...ซึ่ง รา กินน้ำตาล และกินสารหลายๆ
อย่างได้เยอะกว่าแบคทีเรีย  อยู่ทนกว่าแบคทีเรียด้วย....อย่าลืมเรื่อง normal flora ในร่างกายมนุษย์น้าค้า... เพราะว่า ร่างกายมนุษย์ มีเชื้อเจริญ
เป็นปกติมากมายในร่างกายค่า )  ....แต่ว่า ยังไงแล้ว... ก็ไม่จำเป็นนักหรอกจ้า... เพราะทั้งหมด คือ สร้างความหนืดให้ น้ำ
Water หรือ Purified Water....  น้ำในการผลิตสินค้าพวกนี้ เป็นน้ำผ่านการฆ่าเชื้อทั้งสิ้น จ้า... จะเขียน ย่อ หรือ ไม่ย่อ ก็คือๆ กันนะจ้า... แล้วมา
ผสมในสินค้า พอเจอ preservative ก็ ยิ่ง น้ำสะอาดเข้าไปอีก...
สารกันบูด มีหลายอย่าง... Tetrasodium Pyrohosphate ก็ กันบูดได้จ้า... แต่ประสิทธิภาพ กันบูด เมื่อเทียบกับ Sodium Benzoate (สารเร่งเนื้อแดง 
ถ้าใช้ผิดๆ ในอาหารสัตว์ หรือ อาจจะใช้ได้ ในสินค้าคอสเมติกส์ก็มีมากมาย)  นั้น ไม่ขอพูดถึงน้า ...... ทั้งนี้ กฎหมาย มีการกำหนด ขั้นต่ำในการ
เลือกใช้สารกันบูด ให้ปลอดภัยต่อผู้บริโภค อยู่เหมือนกันทั้งคู่จ้า...เพราะว่า สุดท้ายแล้ว ไม่ว่า ใช้สารกันบูดอะไร... จะต้อง แสดงการทดสอบ
การหมดอายุสินค้า และการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ ในสินค้า ให้ได้เท่ากัน ด้วยจ้า ...
โอ้.... ขอไม่อธิบาย ต่อละกันน้าค้า... มีความรู้ มาเขียนให้ ลองพิจารณาได้ ยาวมากๆๆๆ ค้า...
สุดท้าย ขอให้ สังเกต น๊ะค้าว่า... ยังไง ก็ คุณสมบัติภาพรวม คล้ายๆ กัน ทั้งสิ้น  คือ ช่วย ขัดถู  และทำความสะอาดฟัน ... ต้องใช้ ควบคู่ กับ
แปรงสีฟัน หรือ อาจจะ อุปกรณ์อื่นๆ ... แล้วก็ ต้อง บ้วนน้ำให้สะอาด เสมอ ด้วยน้ำเปล่า...  น้ำเปล่า บ้านของเราเองล่ะ... สะอาดหรือเปล่าวจ้า...
แล้ว อะไรกันแน่ ที่ทำให้ ฟันสะอาด...แปรง หรือ ยาสีฟัน ?  ฮิ  ฮิ ..... สารอะไร จำเป็น หรือ ไม่จำเป็น กันแน่...  แล้วจะเป็น สำหรับใคร กัน ? 
ตัวเราเอง หรือ ผู้ผลิต ? .... ใครมีหู ไว้วางสติปัญญา...ทำให้เรารู้สึก สงสัย และ น่าลองค้นหาดูดีไหมค้า... ความจริงของข้อมูล การศึกษา อยู๋ที่
ไหนน้า  ฮิ  ฮิ ...คิดเรือยเปื่อยดีกว่า... คนแต่ละคน มีความพึงพอใจแตกต่างกัน....แล้วก็  ไม่มีใคร คุ้มครอง ผู้บริโภค หรือ สาวกจริงเปล่าน้า ?  
เงินเราไปอยู่ที่ใครกันน้า ?  หรือใช้ใบข่อยดีน๊ะ ?  ข้อมูลฝรั่งเชื่อได้จริงไหมน้า ? ... สารพัด จะคิดค้า...
โดย:  น้ำใจ (คิดเรื่อยเปื่อย)  [28 มี.ค. 2554 19:41]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น